เปรียบเทียบบัตรกดเงินสด

ขอเขียนบทความเชิงตั้งคำถามเสียบ้าง (ผม post คำถามไว้ที่ http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=572d5a4261aaf0da ถ้าใครตอบได้รบกวนตอบที่ลิงก์นี้เพื่อเป็นความรู้ต่อคนอื่น) เกี่ยวกับเหตุผลที่มีดอกเบี้ยการกดเงินสด (ทั้ง ๆ ที่คิดค่าธรรมเนียมการกดแล้ว)

เบิกเงินสดด้วยบัตรเครดิตต่างกับรูดบัตรซื้อของตรงไหน

เป็นที่ทราบทั่วไปว่า บัตรเครดิตที่เรา ๆ ท่าน ๆ ถืออยู่นี้ หากนำไปกดเบิกเงินสดจากตู้ ATM เมื่อไหร่ จะต้องมีค่าธรรมเนียม 3% ส่วนนี้พอรับได้ เพราะต้องเอาไปชดเชยรายได้ที่ธนาคารควรได้จากร้านค้า แต่ที่ผมอดสงสัยไม่ได้คือทำไมยังต้องมีดอกเบี้ยรายวันอีกต่างหาก (แม้เราจะชำระหนี้เต็มจำนวนทุกงวดก็ตาม)

หากจะเปรียบเทียบกับขั้นตอนต่าง ๆ ก็เกือบเหมือนกับเอาบัตรไปรูดซื้อสินค้าจากร้านค้าทุกประการ

ลองเปรียบเทียบนะครับ

รูดบัตรเครดิตซื้อสินค้า กดเงินสดจากบัตรเครดิต
เราได้สินค้าที่ต้องการ เราได้เงินที่ต้องการ แล้วเอาไปซื้อสินค้าที่รูดบัตรซื้อไม่ได้
ร้านค้าสรุปยอดส่งธนาคารแบบ online ในแต่ละวัน วันรุ่งขึ้น ธนาคารโอนเงินให้ร้านค้า โดย
– ธนาคารได้ค่าธรรมเนียมจากร้านค้าทันทีประมาณ 2-3%

– ร้านค้าได้รับเงินค่าสินค้าจากธนาคารประมาณ 97-98%

เราได้รับเงินเต็ม แต่ระบบธนาคารบันทึกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากเรา 3%
ครบรอบบัญชี ธนาคารออกใบแจ้งหนี้ เรียกเก็บเงินจากเรา ถ้าเราชำระเต็ม ก็ไม่ต้องชำระดอกเบี้ย ครบรอบบัญชี ธนาคารออกใบแจ้งหนี้ เรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมจากเรา พร้อมดอกเบี้ยกดเงินสดรายวัน และแม้เราชำระเต็ม ก็ยังมีดอกเบี้ยส่วนนี้ที่คำนวณระหว่างวันครบรอบบัญชี – วันที่เราไปชำระจริงในงวดต่อไปอีกต่างหาก ราวกับว่าเราจ่ายขั้นต่ำซะงั้น (ดูวิธีคำนวณใน จ่ายบัตรขั้นต่ำให้ดอกน้อยลง (อีกนิด) ตอน 2/3 : ถ้าจ่ายขั้นต่ำล่ะ เขาคำนวณดอกเบี้ยอย่างไร)
ผมเห็นว่า ในเมื่อธนาคารได้เงินค่าธรรมเนียม 3% จากเราไปแล้ว (เหมือนกับที่เรียกเก็บจากร้านค้า) ก็ไม่ควรจะมาคิดดอกเบี้ยกับเรา ตราบใดที่เรายังชำระหนี้ตามใบแจ้งหนี้ได้ครบถ้วนและเต็มจำนวน

เบิกเงินสดด้วยบัตรกดเงินสดก็ยังอุตส่าห์มีค่ากด

ที่ผมสงสัยอีกประการคือ พวกสินเชื่อส่วนบุคคลทำไมยังต้องมาเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการกดเงินอีก 3% แม้จะกดจากตู้ที่เป็นระบบของตัวเองก็ตาม (หลัง ๆ มาบางเจ้าเริ่มไม่เก็บแล้วเพราะการแข่งขันสูงขึ้น ยกเว้นถ้ากดข้ามธนาคาร) ค่าใช้จ่ายส่วนนี้มันก็ควรจะรวมอยู่ในค่าดำเนินการต่าง ๆ ของผู้ให้บริการสินเชื่อแล้ว เพราะการที่พวกปล่อยกู้คิดดอกเบี้ยการกู้ยืมถึง28% ต่อปีนั้น ทางธนาคารแห่งประเทศไทยได้กำหนดเพดานนี้ไว้ โดยรวมค่าใช้จ่ายดำเนินการต่าง ๆ แล้วต้องไม่เกินเท่านี้

ใครตอบได้ รบกวนตอบไว้ที่ http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=572d5a4261aaf0da นะครับ (เพื่อเผยแพร่ให้ผู้อื่นทราบ)

ข้อเสนอแนะส่วนตัว

ผมว่า เราทุกคนที่ยังต้องพึ่งพาสินเชื่อส่วนบุคคล (ยามจำเป็น) ต้องร่วมกันต่อต้านการเอาเปรียบผู้บริโภคจนเกินงามด้วยการอย่าไปใช้บริการที่คิดค่าบริการยิบย่อยแบบนี้ ในไม่ช้าพลังผู้บริโภคจะบีบให้เขาต้องปรับตัว

จากประสบการณ์ส่วนตัวแล้ว แม้เราจะไม่มีเงินพอจนต้องพึ่งพาสินเชื่อส่วนบุคคล แต่เรามักรู้ล่วงหน้าอยู่ก่อนแล้ว เพียงแค่วางแผนการเงินดี ๆ เราก็ไม่ต้องไปจ่ายค่าธรรมเนียมโดยไม่จำเป็น ซึงเคยได้เสนอไว้ในบทความที่ผ่านมา เช่น

– อย่าใช้วิธีแบบกดเงินสด เมื่อจ้องการปิดบัตรเครดิตด้วยสินเชื่อส่วนบุคคล
– ยอมการใช้สินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อซื้อทองเก็บไว้ แล้วเอาเป็นหลักทรัพย์สำหรับการกู้เงินจากโรงรับจำนำ (ดูใน เป็นหนี้อย่างมีชั้นเชิงตอน 2/3: แนวทางลดภาระดอกเบี้ยภาคปฏิบัติ) ซึ่งจ่ายดอกเบี้ยต่ำกว่า และไม่ต้องยุ่งกับเครดิตบูโรด้วย

 

>>> แจ้งข่าว Lazada กำลังจัดโปรลดครั้งยิ่งใหญ่ประจำปี ลดสูงสุดถึง 90% คลิกเลย !